วันสุดท้ายของการเดินทาง (วันที่ 4)
(Yau Ma Tei - Avenue of Stars - ช้อปปิ้งแถว Tsim Sha Tsui - กลับกรุงเทพฯ)
เช้านี้ตั้งใจมากว่าจะไปกินข้าวเช้าที่ร้านTak Yue Restaurant เพราะอยากกินติ่มซำ มานี่ยังไม่ได้กินเลย เห็นเค้าว่าร้านนี้เก่าแก่และขึ้นชื่อ อยู่ที่สถานี Yau Ma Tei เลยขึ้นรถไฟมา ลองเดินหาดูตามพิกัดที่เค้าเขียนบอก แต่แล้วโชคชะตานำพาเมฆดำมาบดบัง หาร้านไม่เจอ เหมือนจะเป็นร้านหัวมุมนี้ที่คิดว่าใช่ แต่ว่าร้านปิดเลยตัดใจเปลี่ยนแผน ลองเดินหาร้านอื่นดู
ในความโชคร้ายยังโชคดี ไปเจอร้านติ่มซำเล็กๆพอดี กินที่นี่แหละ!! น่ากินอยู่
มื้อส่งท้ายเลยจัดเต็มหน่อย เห็นโต๊ะอื่นสั่งไรก็ตามๆๆๆๆ
บอกเลยยยย ร้านนี้รสชาติถูกใจมากกก ขนมจีบ ฮะเก้ากุ้งเป็นกุ้ง ใส่เด้งๆแน่นๆ ปอเปี๊ยะไส้สลัดก็ไม่มันเลี่ยนเลย แป้งกรอบอร่อย ก๋วยเตี๋ยวหลอดอร่อยขั้นเทพ เนื้อแป้งเหนียวๆน้ำจิ้มกลมกล่อม สุดท้ายชอบกินอยู่แล้วคือไชเท้าทอด แต่ร้านนี้ทำอร่อยมาก กรอบ เนื้อไชเท้าละเอียด ละมุนลิ้นมากกก และที่สำคัญทั้งหมดนี้แค่ $130!!! ไม่แพงเลย
เสร็จภารกิจติ่มซำก็นั่งรถไฟย้อนกลับไปTsim Sha Tsui เพื่อเดินไป Avenue of Stars วันแรกไปตอนดึกแล้วดูแต่ Symphony of Light วันนี้เลยมาเก็บตกอีกรอบ...ไม่อยากจะเชื่อ วันนี้หมอกลงหนาพรึ่บ อากาศร้อนมากกก ฮืออ...ถ่ายรูปก็ไม่สวย แดดก็แผดเผาสุดๆ แกล้งกันปะเนี่ย
ร้อนมากไม่ไหวนะ พาไปเก็บตกต่อกันที่ห้าง I Square เพื่อกินขนมหวานที่ Honeymoon Dessert ดีกว่า
ร้านนี้มีขนมหวานหลายอย่าง แต่ที่ดังคือขนมมะม่วง ลองสั่งแพนเค้กมะม่วงมาลอง ไม่อร่อยอะ แป้งหุ้มจืดๆ ไส้ก็รสชาติงั้น แพงด้วย ขอผ่านนน
จบสิ้นภารกิจตามหาร้านกินแล้ว ถัดมาก็เริ่มช้อปปิ้งแถวๆนั้น เข้าร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอางพวกSasa, Bonjour ได้ของถูกมานิดๆหน่อยๆ พอประมาณแบกไหว และก่อนขึ้นไปเอากระเป๋ากลับบ้าน ขอหาร้านกินข้าวซักหน่อย แม่บอกว่าวันก่อนเดินผ่านเห็นร้านนึงน่ากินเลยเดินไปดู แล้วก็ได้มาที่นี่ Yuen Kee Restaurant ร้านเป็ดย่างหมูแดงไม่ไกลจากที่พัก ร้านนี้มีเมนูหลากหลายดี
หลังจากอิ่มท้องก็จบการเดินทางเพียงเท่านี้ กลับขึ้นไปขนกระเป๋ากลับเมืองไทยด้วยความอิ่มเอม...
และฉันจะกลับมากินอีก 555
Tuesday, March 18, 2014
สามคนอลเวง ตอนครั้งแรกที่ฮ่องกง (วันที่ 3)
วันที่สามของการเดินทาง (เสาร์ 11 ม.ค.)
(Macau) มาเก๊าวันเดียวก็เที่ยวได้ขึ้นเรือไปมาเก๊ากันดีกว่า วันนี้ตั้งใจว่าจะขึ้นเรือเที่ยว 9.00 เริ่มออกจากที่พักเจ็ดโมงกว่า ยังมีเวลาชิวแวะกินอาหารเช้า (ห่วงกินมากที่สุด)
เมนูละลานตา |
ยังเช้าเกินไม่ค่อยหิว กินเบาๆไปก่อน
คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย โรยผงเครื่องปรุงไรบางอย่าง เค็มๆ |
บะหมี่ลูกชิ้นปลาหมึก (เมนูยอดฮิต กินแทบทุกมื้อ) |
ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น (ปริมาณอลังการมาก) |
ระหว่างเดินไปท่าเรือ China Ferry Terminal (อยู่ในตึกChina HK City) ก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อยตามประสาแม่ลูก (ตลอดดด) และแล้วก็มาถึงบริเวณขายตั๋ว
บูธบริษัท Cotai Jet |
บริษัทเรือข้ามฟากจากท่าเรือนี้จะมี 2 บริษัท คือ Cotai Jet และ Turbo Jet แต่แพลนไว้ว่าจะนั่งเรือไปลงเกาะไทปา เลยต้องเลือกCotai Jet ที่ให้บริการจากฝั่งเกาลูนไปไทปาเท่านั้น
ผ่านด่านตม.เข้าเมืองมาเก๊า |
บรรยากาศบนเรือ |
ภายในเวเนเชี่ยน ตกแต่งหรูหราสไตล์อิตาลี ก็สวยงามตามประสาของเลียนแบบ
เดินไปยังเป้าหมายก่อนเลย เดินตามกลิ่น 555 ในร้านมีขนมอย่างอื่นด้วยนอกจากทาร์ตไข่แต่ไม่ได้ชิม
หน้าไหม้ๆแบบนี้แหละ ชอบบๆๆ |
จะบอกว่าทีแรกวางแผนว่าจะมามาเก๊าตั้งแต่วันศุกร์แล้ว เพราะตั๋วเรือวันเสาร์อาทิตย์แพงกว่า แต่ก็เพราะเจ้าทาร์ตไข่นี่แหละ เลยต้องมาวันก่อนกลับจะได้เอาของสดๆใหม่ๆกลับบ้าน คุ้มมั้ยเนี่ย??
เดินเล่นซักพักก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งนึงยัง City of Dreams เพื่อมาดูการแสดงชื่อ Dragon's Treasureเริ่มแสดงบ่ายโมงไปถึงเร็วไปยังไม่เริ่มขายตั๋ว ก็เลยจะไปหาไรกินรอ ปรากฎว่าฟู้ดคอร์ทปิดบริการเลยได้ไปกินแมคโดนัลแทน พอใกล้เวลาก็ลงมาซื้อตั๋วค่าชมคนละ $50 ถ้าอายุเกิน60 ซื้อตั๋วราคาพิเศษได้ด้วยนะ
ด้านหน้าตึก ฮวงจุ้ยดีมากๆๆ ทั้งบ่อน้ำ น้ำพุ น้ำตกหน้าตึก |
Dragon's Treasure ฉายภาพบนจอ 360° ตื่นตาตื่นใจดี |
บังเอิญเจอดาราไต้หวันมาถ่ายหนัง |
นั่งไปซักพักเริ่มเอะใจ นั่งดูแผนที่ตามเรื่อยๆ เอ๊ะดูเหมือนผิดทางนะ แล้วก็มั่นใจมากว่าผิดชัวร์ก็ตรงที่รถวิ่งไปถึงหมู่บ้านโคโลอาน ต้นกำเนิดร้านLord Stow's!!! ต้องอธิบายนิดนึงว่าที่รู้เป็นเพราะตอนแรกว่าจะมาซื้อทาร์ตที่ร้านนี้เพราะเห็นเป็นร้านแรก แต่ด้วยเส้นทางแล้ว อ้อมและเสียเวลาสุดๆ เวลาที่อยู่ในมาเก๊าแค่วันเดียว ก็เลยตัดสินใจไม่มาและเลือกจะซื้อทาร์ตที่เวเนเชี่ยนที่เป็นสาขาใหม่แทน แต่ทว่า...หลงมาถึงร้านนี้ได้ไงกันเนี่ย 555 คิดแล้วก็ขำ...
ไม่รู้ว่าต้องนั่งรถอะไรไปถึงวัดอาม่าอีก เวรกรรม... ดูป้ายรถเมล์ก็ไม่ค่อยเป็น โชคดีที่ถามคนขับรถเมล์เอาว่าไปมั้ย เค้าบอกว่าไปก็ไป เชื่อง่ายมากๆๆ
ไกลเหมือนกันนะกว่าจะนั่งย้อนกลับมาถึงวัดอาม่า เสียเวลาไปหลายเลย และที่วัดอาม่าก็ไม่ค่อยมีอะไร (ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ The must ไม่มาก็ได้ >_<)
ชอบธูปวงที่ีนี่ เข้าใจคิด เพื่อให้ธูปติดอยู่นานเจ็ดวัน ทำเป็นวงๆดูสวยและประหยัดที่ดี ไม่งั้นธูปคงต้องสูงมากกก
ออกไปขึ้นรถบัสไปเที่ยวแถว Senado Square ดีกว่า... เดินทางในมาเก๊านี่ไม่ง่ายเลยนะ นั่งรถดูแผนที่เอานี่จะหลงเอาง่ายๆ นั่งรถไปก็เดาๆเอาว่าต้องลงตรงไหน เพราะไม่รู้ชื่อป้าย รถเมล์บ้านๆไม่มีป้ายไฟบอกเหมือนในฮ่องกง ทำให้นึกสะท้อนถึงการขึ้นรถเมล์บ้านเรา ที่ต่างชาติไม่นิยมขึ้นเพราะรถมาไม่เป็นเวลา แถมป้ายไหนคือไรก็ไม่รู้ ชื่อป้ายก็ไม่มี เดี๋ยวก็จอดเดี๋ยวก็ไม่จอด ขึ้นแล้วก็หวั่นๆ ลงผิดก็เดินไกล มันใช่เลย! ความรู้สึกตอนนี้ T_T
แต่แหม่...โชคดีที่ลงถูก พอลงรถปุ๊บก็เดินตามป้ายไป St.Paul's Ruins ซากประตูโบสถ์ที่หลงเหลืออยู่
ขนมแปลกๆลองกินซะหน่อย |
ตลาดขายขนมทางเดินไปซากโบสถ์ คนเยอะมาก |
ร้านขนมดังของมาเก๊า |
ไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึงมาเก๊านะ ต้องถ่ายซักหน่อย ฟ้าใสมาก |
น้ำมะม่วงปั่น หอม ไม่หวานเกิน ชื่นใจ |
เป็ดย่าง หมูแดง รสชาติเข้มข้น หนักเครื่องพริกไทยดำ |
กินแกล้มกับผักสดๆ เข้ากันดีนัก |
Grand Lisbua |
ป้ายรถก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตรงนั้น แถมคนไปท่าเรือกันเยอะ ไม่หลงชัวร์
ในที่สุดมาถึงท่าเรือตามแผน ไม่ดึกเกิน รีบจัดแจงซื้อตั๋ว รอบนี้เปลี่ยนไปใช้บริการ Turbojet บ้าง
กลับมาถึงฝั่งเกาลูนซักสี่ทุ่ม เหนื่อยมากกก แต่นอนในเรือตื่นมาก็หิวอีกละ 555 เจอไอติมข้างทางก็ซักหน่อยละกัน
ระหว่างทางเดินกลับที่พัก เจอร้านขายพิซซ่าถาดโตน่ากินมากกกกก ถาด12"ใหญ่ได้ใจ อดใจไม่ไหว ขอลองหน่อย ชื้นเดียวก็เกินพอใหญ่สองฝ่ามือได้
พิซซ่าที่นี่รสชาติอร่อย แป้งกรอบบาง หน้าจัดเต็ม ซอสกลมกล่อมไม่เปรี้ยวเกิน พูดแล้วก็อยากกินอีก ใครได้แวะไปลองซื้กินดูนะ แนะนำๆๆๆ
Subscribe to:
Posts (Atom)