Tuesday, March 18, 2014

สามคนอลเวง ตอนครั้งแรกที่ฮ่องกง (วันที่ 3)

วันที่สามของการเดินทาง (เสาร์ 11 ม.ค.)
(Macau) มาเก๊าวันเดียวก็เที่ยวได้

ขึ้นเรือไปมาเก๊ากันดีกว่า วันนี้ตั้งใจว่าจะขึ้นเรือเที่ยว 9.00 เริ่มออกจากที่พักเจ็ดโมงกว่า ยังมีเวลาชิวแวะกินอาหารเช้า (ห่วงกินมากที่สุด)

เมนูละลานตา

ยังเช้าเกินไม่ค่อยหิว กินเบาๆไปก่อน

คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย โรยผงเครื่องปรุงไรบางอย่าง เค็มๆ
บะหมี่ลูกชิ้นปลาหมึก (เมนูยอดฮิต กินแทบทุกมื้อ)
ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น (ปริมาณอลังการมาก)
โดยรวม รสชาติใช้ได้ไม่ถึงกับอร่อย หรือว่าไม่ค่อยหิวเลยกินไม่อร่อยไม่รู้นะ ไปชิมอาหารที่มาเก๊าต่อดีกว่า

 ระหว่างเดินไปท่าเรือ China Ferry Terminal (อยู่ในตึกChina HK City) ก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อยตามประสาแม่ลูก (ตลอดดด) และแล้วก็มาถึงบริเวณขายตั๋ว
บูธบริษัท Cotai Jet

บริษัทเรือข้ามฟากจากท่าเรือนี้จะมี 2 บริษัท คือ Cotai Jet และ Turbo Jet แต่แพลนไว้ว่าจะนั่งเรือไปลงเกาะไทปา เลยต้องเลือกCotai Jet ที่ให้บริการจากฝั่งเกาลูนไปไทปาเท่านั้น 
ผ่านด่านตม.เข้าเมืองมาเก๊า
บรรยากาศบนเรือ
นั่งหลับประมาณชม.นึงก็ถึงไทปา ที่แรกที่เราตั้งใจมากๆที่จะไปก็คือ The Venetian เพื่อไปซื้อทาร์ตไข่ Lord Stow's ก่อนอื่นเลย วิธีการเดินทางไปก็ง่ายแสนง่าย เดินออกมาจากท่าเรือจะมีรถบัสบริการฟรีจอดรออยู่ ขึ้นได้เลย

ภายในเวเนเชี่ยน ตกแต่งหรูหราสไตล์อิตาลี ก็สวยงามตามประสาของเลียนแบบ 



เดินไปยังเป้าหมายก่อนเลย เดินตามกลิ่น 555 ในร้านมีขนมอย่างอื่นด้วยนอกจากทาร์ตไข่แต่ไม่ได้ชิม

หน้าไหม้ๆแบบนี้แหละ ชอบบๆๆ
ราคาชื้นละ $8 ถือว่าแพงอยู่ แต่อร่อยกว่าKFCแพงกว่านิดหน่อยก็ยอม แบกกลับมา4กล่อง (24ชิ้น) ^^"
จะบอกว่าทีแรกวางแผนว่าจะมามาเก๊าตั้งแต่วันศุกร์แล้ว เพราะตั๋วเรือวันเสาร์อาทิตย์แพงกว่า แต่ก็เพราะเจ้าทาร์ตไข่นี่แหละ เลยต้องมาวันก่อนกลับจะได้เอาของสดๆใหม่ๆกลับบ้าน คุ้มมั้ยเนี่ย??

เดินเล่นซักพักก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งนึงยัง City of Dreams เพื่อมาดูการแสดงชื่อ Dragon's Treasureเริ่มแสดงบ่ายโมงไปถึงเร็วไปยังไม่เริ่มขายตั๋ว ก็เลยจะไปหาไรกินรอ ปรากฎว่าฟู้ดคอร์ทปิดบริการเลยได้ไปกินแมคโดนัลแทน พอใกล้เวลาก็ลงมาซื้อตั๋วค่าชมคนละ $50 ถ้าอายุเกิน60 ซื้อตั๋วราคาพิเศษได้ด้วยนะ
ด้านหน้าตึก ฮวงจุ้ยดีมากๆๆ ทั้งบ่อน้ำ น้ำพุ น้ำตกหน้าตึก
Dragon's Treasure ฉายภาพบนจอ 360° ตื่นตาตื่นใจดี
บังเอิญเจอดาราไต้หวันมาถ่ายหนัง
การเดินทางในมาเก๊า ไม่มีรถไฟฟ้าและแต่ละที่ก็ไกลกันพอสมควร ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ แท็กซี่ ไม่ก็รถเมล์ และสถานที่ต่อไปที่เราจะไปคือ วัดอาม่า (A-ma Temple) เท่าที่หาข้อมูลมาขึ้นสาย 21A หรือ 26 จากตรงนี้ไปถึงเลย แต่พอไปดูตรงป้ายไม่แน่ใจเลยถามคนแถวนั้น และแล้วก็ขึ้นตามคำแนะนำ...

นั่งไปซักพักเริ่มเอะใจ นั่งดูแผนที่ตามเรื่อยๆ เอ๊ะดูเหมือนผิดทางนะ แล้วก็มั่นใจมากว่าผิดชัวร์ก็ตรงที่รถวิ่งไปถึงหมู่บ้านโคโลอาน ต้นกำเนิดร้านLord Stow's!!! ต้องอธิบายนิดนึงว่าที่รู้เป็นเพราะตอนแรกว่าจะมาซื้อทาร์ตที่ร้านนี้เพราะเห็นเป็นร้านแรก แต่ด้วยเส้นทางแล้ว อ้อมและเสียเวลาสุดๆ เวลาที่อยู่ในมาเก๊าแค่วันเดียว ก็เลยตัดสินใจไม่มาและเลือกจะซื้อทาร์ตที่เวเนเชี่ยนที่เป็นสาขาใหม่แทน แต่ทว่า...หลงมาถึงร้านนี้ได้ไงกันเนี่ย 555 คิดแล้วก็ขำ...

ไม่รู้ว่าต้องนั่งรถอะไรไปถึงวัดอาม่าอีก เวรกรรม... ดูป้ายรถเมล์ก็ไม่ค่อยเป็น โชคดีที่ถามคนขับรถเมล์เอาว่าไปมั้ย เค้าบอกว่าไปก็ไป เชื่อง่ายมากๆๆ

ไกลเหมือนกันนะกว่าจะนั่งย้อนกลับมาถึงวัดอาม่า เสียเวลาไปหลายเลย และที่วัดอาม่าก็ไม่ค่อยมีอะไร (ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ The must ไม่มาก็ได้ >_<)
ชอบธูปวงที่ีนี่ เข้าใจคิด เพื่อให้ธูปติดอยู่นานเจ็ดวัน ทำเป็นวงๆดูสวยและประหยัดที่ดี ไม่งั้นธูปคงต้องสูงมากกก

ออกไปขึ้นรถบัสไปเที่ยวแถว Senado Square ดีกว่า... เดินทางในมาเก๊านี่ไม่ง่ายเลยนะ นั่งรถดูแผนที่เอานี่จะหลงเอาง่ายๆ นั่งรถไปก็เดาๆเอาว่าต้องลงตรงไหน เพราะไม่รู้ชื่อป้าย รถเมล์บ้านๆไม่มีป้ายไฟบอกเหมือนในฮ่องกง ทำให้นึกสะท้อนถึงการขึ้นรถเมล์บ้านเรา ที่ต่างชาติไม่นิยมขึ้นเพราะรถมาไม่เป็นเวลา แถมป้ายไหนคือไรก็ไม่รู้ ชื่อป้ายก็ไม่มี เดี๋ยวก็จอดเดี๋ยวก็ไม่จอด ขึ้นแล้วก็หวั่นๆ ลงผิดก็เดินไกล มันใช่เลย! ความรู้สึกตอนนี้ T_T
แต่แหม่...โชคดีที่ลงถูก พอลงรถปุ๊บก็เดินตามป้ายไป St.Paul's Ruins ซากประตูโบสถ์ที่หลงเหลืออยู่
ขนมแปลกๆลองกินซะหน่อย
ตลาดขายขนมทางเดินไปซากโบสถ์ คนเยอะมาก
ร้านขนมดังของมาเก๊า
ไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึงมาเก๊านะ ต้องถ่ายซักหน่อย ฟ้าใสมาก
ที่มาเก๊าอากาศไม่เย็นเท่าฮ่องกง และเดาว่าอุณหภูมิวันนี้คงสูงขึ้นกว่าเมื่อวานด้วย แต่งตัวมากะว่าจะหนาวแบบทุกวันเลยร้อนเลย ดับกระหายด้วยน้ำมะม่วงเกล็ดๆเย็นๆซะหน่อย ชอบกินน้ำที่นี่มากเลย
น้ำมะม่วงปั่น หอม ไม่หวานเกิน ชื่นใจ
เดินย้อนกลับทางเดินต่อไปทางSenado Square แถวนี้จะมีร้านค้าต่างๆมากมาย เดินเล่นพักผ่อนเล็กน้อย คนเยอะมากวันนี้



ท้องเริ่มเรียกร้องแล้ว ตามหาร้านอาหารดีกว่า ได้ชื่อร้านมาแต่ไม่รู้อยู่ไหนแฮะ เลยเข้าไปถามที่ Tourist Information Center ดีนะร้านนี้ชื่อดังพอที่จะมีคนรู้จัก ออกเดินตามถนนมาเรื่อยๆ ไม่นานก็เจอร้าน


เป็ดย่าง หมูแดง รสชาติเข้มข้น หนักเครื่องพริกไทยดำ
กินแกล้มกับผักสดๆ เข้ากันดีนัก
 หลังจากอิ่มอร่อยกับเป็ดย่าง หมูแดงมื้อแรกตั้งแต่มาทริปนี้แล้ว ก็ไปย่อยที่คาสิโนต่ออีกหน่อย

Grand Lisbua
ที่จริงจุดประสงค์ที่เดินมาที่คาสิโนนี้ นอกจากมาดูความสวยงามแล้ว ยังคิดจะมาขึ้นรถบัสไปท่าเรือเพื่อกลับฮ่องกง แต่ดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช่ลูกค้าที่นี่ไม่สามารถขึ้นบัสได้ เลยถอดใจออกมาหารถเมล์ขึ้นไปเอง
ป้ายรถก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตรงนั้น แถมคนไปท่าเรือกันเยอะ ไม่หลงชัวร์

ในที่สุดมาถึงท่าเรือตามแผน ไม่ดึกเกิน รีบจัดแจงซื้อตั๋ว รอบนี้เปลี่ยนไปใช้บริการ Turbojet บ้าง
กลับมาถึงฝั่งเกาลูนซักสี่ทุ่ม เหนื่อยมากกก แต่นอนในเรือตื่นมาก็หิวอีกละ 555 เจอไอติมข้างทางก็ซักหน่อยละกัน
ระหว่างทางเดินกลับที่พัก เจอร้านขายพิซซ่าถาดโตน่ากินมากกกกก ถาด12"ใหญ่ได้ใจ อดใจไม่ไหว ขอลองหน่อย ชื้นเดียวก็เกินพอใหญ่สองฝ่ามือได้




พิซซ่าที่นี่รสชาติอร่อย แป้งกรอบบาง หน้าจัดเต็ม ซอสกลมกล่อมไม่เปรี้ยวเกิน พูดแล้วก็อยากกินอีก ใครได้แวะไปลองซื้กินดูนะ แนะนำๆๆๆ

  





No comments:

Post a Comment