วันที่สามของการเดินทาง (เสาร์ 11 ม.ค.)
(Macau) มาเก๊าวันเดียวก็เที่ยวได้ขึ้นเรือไปมาเก๊ากันดีกว่า วันนี้ตั้งใจว่าจะขึ้นเรือเที่ยว 9.00 เริ่มออกจากที่พักเจ็ดโมงกว่า ยังมีเวลาชิวแวะกินอาหารเช้า (ห่วงกินมากที่สุด)
เมนูละลานตา |
ยังเช้าเกินไม่ค่อยหิว กินเบาๆไปก่อน
คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย โรยผงเครื่องปรุงไรบางอย่าง เค็มๆ |
บะหมี่ลูกชิ้นปลาหมึก (เมนูยอดฮิต กินแทบทุกมื้อ) |
ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น (ปริมาณอลังการมาก) |
ระหว่างเดินไปท่าเรือ China Ferry Terminal (อยู่ในตึกChina HK City) ก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อยตามประสาแม่ลูก (ตลอดดด) และแล้วก็มาถึงบริเวณขายตั๋ว
บูธบริษัท Cotai Jet |
บริษัทเรือข้ามฟากจากท่าเรือนี้จะมี 2 บริษัท คือ Cotai Jet และ Turbo Jet แต่แพลนไว้ว่าจะนั่งเรือไปลงเกาะไทปา เลยต้องเลือกCotai Jet ที่ให้บริการจากฝั่งเกาลูนไปไทปาเท่านั้น
ผ่านด่านตม.เข้าเมืองมาเก๊า |
บรรยากาศบนเรือ |
ภายในเวเนเชี่ยน ตกแต่งหรูหราสไตล์อิตาลี ก็สวยงามตามประสาของเลียนแบบ
เดินไปยังเป้าหมายก่อนเลย เดินตามกลิ่น 555 ในร้านมีขนมอย่างอื่นด้วยนอกจากทาร์ตไข่แต่ไม่ได้ชิม
หน้าไหม้ๆแบบนี้แหละ ชอบบๆๆ |
จะบอกว่าทีแรกวางแผนว่าจะมามาเก๊าตั้งแต่วันศุกร์แล้ว เพราะตั๋วเรือวันเสาร์อาทิตย์แพงกว่า แต่ก็เพราะเจ้าทาร์ตไข่นี่แหละ เลยต้องมาวันก่อนกลับจะได้เอาของสดๆใหม่ๆกลับบ้าน คุ้มมั้ยเนี่ย??
เดินเล่นซักพักก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งนึงยัง City of Dreams เพื่อมาดูการแสดงชื่อ Dragon's Treasureเริ่มแสดงบ่ายโมงไปถึงเร็วไปยังไม่เริ่มขายตั๋ว ก็เลยจะไปหาไรกินรอ ปรากฎว่าฟู้ดคอร์ทปิดบริการเลยได้ไปกินแมคโดนัลแทน พอใกล้เวลาก็ลงมาซื้อตั๋วค่าชมคนละ $50 ถ้าอายุเกิน60 ซื้อตั๋วราคาพิเศษได้ด้วยนะ
ด้านหน้าตึก ฮวงจุ้ยดีมากๆๆ ทั้งบ่อน้ำ น้ำพุ น้ำตกหน้าตึก |
Dragon's Treasure ฉายภาพบนจอ 360° ตื่นตาตื่นใจดี |
บังเอิญเจอดาราไต้หวันมาถ่ายหนัง |
นั่งไปซักพักเริ่มเอะใจ นั่งดูแผนที่ตามเรื่อยๆ เอ๊ะดูเหมือนผิดทางนะ แล้วก็มั่นใจมากว่าผิดชัวร์ก็ตรงที่รถวิ่งไปถึงหมู่บ้านโคโลอาน ต้นกำเนิดร้านLord Stow's!!! ต้องอธิบายนิดนึงว่าที่รู้เป็นเพราะตอนแรกว่าจะมาซื้อทาร์ตที่ร้านนี้เพราะเห็นเป็นร้านแรก แต่ด้วยเส้นทางแล้ว อ้อมและเสียเวลาสุดๆ เวลาที่อยู่ในมาเก๊าแค่วันเดียว ก็เลยตัดสินใจไม่มาและเลือกจะซื้อทาร์ตที่เวเนเชี่ยนที่เป็นสาขาใหม่แทน แต่ทว่า...หลงมาถึงร้านนี้ได้ไงกันเนี่ย 555 คิดแล้วก็ขำ...
ไม่รู้ว่าต้องนั่งรถอะไรไปถึงวัดอาม่าอีก เวรกรรม... ดูป้ายรถเมล์ก็ไม่ค่อยเป็น โชคดีที่ถามคนขับรถเมล์เอาว่าไปมั้ย เค้าบอกว่าไปก็ไป เชื่อง่ายมากๆๆ
ไกลเหมือนกันนะกว่าจะนั่งย้อนกลับมาถึงวัดอาม่า เสียเวลาไปหลายเลย และที่วัดอาม่าก็ไม่ค่อยมีอะไร (ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ไม่ใช่ The must ไม่มาก็ได้ >_<)
ชอบธูปวงที่ีนี่ เข้าใจคิด เพื่อให้ธูปติดอยู่นานเจ็ดวัน ทำเป็นวงๆดูสวยและประหยัดที่ดี ไม่งั้นธูปคงต้องสูงมากกก
ออกไปขึ้นรถบัสไปเที่ยวแถว Senado Square ดีกว่า... เดินทางในมาเก๊านี่ไม่ง่ายเลยนะ นั่งรถดูแผนที่เอานี่จะหลงเอาง่ายๆ นั่งรถไปก็เดาๆเอาว่าต้องลงตรงไหน เพราะไม่รู้ชื่อป้าย รถเมล์บ้านๆไม่มีป้ายไฟบอกเหมือนในฮ่องกง ทำให้นึกสะท้อนถึงการขึ้นรถเมล์บ้านเรา ที่ต่างชาติไม่นิยมขึ้นเพราะรถมาไม่เป็นเวลา แถมป้ายไหนคือไรก็ไม่รู้ ชื่อป้ายก็ไม่มี เดี๋ยวก็จอดเดี๋ยวก็ไม่จอด ขึ้นแล้วก็หวั่นๆ ลงผิดก็เดินไกล มันใช่เลย! ความรู้สึกตอนนี้ T_T
แต่แหม่...โชคดีที่ลงถูก พอลงรถปุ๊บก็เดินตามป้ายไป St.Paul's Ruins ซากประตูโบสถ์ที่หลงเหลืออยู่
ขนมแปลกๆลองกินซะหน่อย |
ตลาดขายขนมทางเดินไปซากโบสถ์ คนเยอะมาก |
ร้านขนมดังของมาเก๊า |
ไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึงมาเก๊านะ ต้องถ่ายซักหน่อย ฟ้าใสมาก |
น้ำมะม่วงปั่น หอม ไม่หวานเกิน ชื่นใจ |
เป็ดย่าง หมูแดง รสชาติเข้มข้น หนักเครื่องพริกไทยดำ |
กินแกล้มกับผักสดๆ เข้ากันดีนัก |
Grand Lisbua |
ป้ายรถก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตรงนั้น แถมคนไปท่าเรือกันเยอะ ไม่หลงชัวร์
ในที่สุดมาถึงท่าเรือตามแผน ไม่ดึกเกิน รีบจัดแจงซื้อตั๋ว รอบนี้เปลี่ยนไปใช้บริการ Turbojet บ้าง
กลับมาถึงฝั่งเกาลูนซักสี่ทุ่ม เหนื่อยมากกก แต่นอนในเรือตื่นมาก็หิวอีกละ 555 เจอไอติมข้างทางก็ซักหน่อยละกัน
ระหว่างทางเดินกลับที่พัก เจอร้านขายพิซซ่าถาดโตน่ากินมากกกกก ถาด12"ใหญ่ได้ใจ อดใจไม่ไหว ขอลองหน่อย ชื้นเดียวก็เกินพอใหญ่สองฝ่ามือได้
พิซซ่าที่นี่รสชาติอร่อย แป้งกรอบบาง หน้าจัดเต็ม ซอสกลมกล่อมไม่เปรี้ยวเกิน พูดแล้วก็อยากกินอีก ใครได้แวะไปลองซื้กินดูนะ แนะนำๆๆๆ
No comments:
Post a Comment